เมนูง่าย ๆ สไตล์บุญสม

ซุปสารพัดผัก

ซุปสารพัดผักอร่อยดีมีประโยชน์สำหรับลูกน้อยและทุกคนในครอบครัว

Minestrone Baby Soup

          ผัก นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายมากแค่ไหนเรารู้กันดีอยู่แล้วล่ะ นั่นเพราะผักอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญและจำเป็นต่อร่างกายที่จะขาดไม่ได้เลย แต่เด็กๆ ส่วนใหญ่รวมถึงผู้ใหญ่อีกหลายคนก็ยี้กับการกินผักเอามากๆ เพราะรสชาติและกลิ่นของผักที่ออกเหม็นเขียว เลยทำให้การกินผักสดหรือผักลวกเป็นเหมือนยาขมสำหรับหลายคน แต่วันนี้เรามีเมนูที่จะทำให้ ทัศนคติต่อการกินผักเปลี่ยนไป ด้วยสูตรซุปผักแสนอร่อยสไตล์อิตาเลี่ยน ‘Minestrone Baby Soup’ ที่อุดมไปด้วยผักตามฤดูกาลหลายชนิดและหลากสีสัน เด็ก ๆ กินได้ ผู้ใหญ่กินดี คนที่ไม่ชอบกินผักยังบอกว่าอร่อย ซึ่งสูตรที่เรานำมาฝากในครั้งนี้จะใส่เส้นพาสต้าลงไปด้วยเพื่อช่วยให้อิ่มท้องด้วยคาร์โบไฮเดรต และที่สำคัญ เราจะเติม ผงสาหร่ายเกลียวทอง เป็นหนึ่งในส่วนผสมของเมนู เพื่อเพิ่มสีสันสวยงามและคุณค่าทางอาหารครบ 5 หมู่ ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อร่างกายอีกด้วย ว่าแล้วก็มาเริ่มลงมือกันเลย!

วัตถุดิบที่ต้องเตรียม

1. ข้าวโพด 1 ฟัก สับละเอียด
2. แครอท 1 หัว หั่นลูกเต๋า
3. ขึ้นฉ่ายฝรั่ง 2-3 ก้าน สับละเอียด
4. ซูกินี 1 ผล หั่นลูกเต๋า
5. หอมหัวใหญ่ 1 หัว หั่นลูกเต๋า
6. มะเขือเทศ 2 ลูก หั่นลูกเต๋า
7. ถั่วต้มสุก 1 ถ้วยเล็ก จะใช้ถั่วแดง ถั่วลูกไก่ หรือถั่วเลนทินก็ได้
8. กระเทียม 3 กลีบ สับละเอียด
9. มักกะโรนีต้มสุก หรือจะใช้พาสต้าก็ได้เช่นกัน 1 ถ้วยเล็ก
10. น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ (หรือจะใช้เนยจืดก็ได้ สำหรับผัดหัวหอมและกระเทียม)
11. ซอสมะเขือเทศเข้มข้น 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าใครอยากจะลดความเค็มก็เลือกชนิดที่ไม่ใส่เกลือก็ได้)
12. น้ำซุป 6 ถ้วย (จะใช้เป็นซุปไก่หรือซุปหมูก็ได้ตามชอบ)
13. ใบกระวาน 1-2 ใบ (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
14. สาหร่ายเกลียวทองชนิดผง 2 ช้อนชา (จะใช้สาหร่ายเกลียวทองแบบสดก็ได้ ปริมาณสามารถ
     เพิ่มได้ตามขนาดของปริมาณอาหารที่ปรุง)

ขั้นตอนการทำซุปผัก Minestrone Baby Soup

1. เทน้ำมันใส่หม้อ รอน้ำมันร้อน จากนั้นใส่หอมหัวใหญ่และกระเทียมลงไปผัดให้หอม
2. ใส่ผักที่เตรียมไว้ โดยมี ข้าวโพด แครอท ขึ้นฉ่ายฝรั่ง ซูกินี ลงไปผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน
3. เติมซอสมะเขือเทศลงไป คนให้ส่วนผสมเข้ากัน
4. เติมน้ำซุปลงไป ตามด้วยมะเขือเทศ ถั่ว จากนั้นคนให้ส่วนผสมเข้ากัน โดยใช้ไฟอ่อนๆ และตั้ง
    บนไฟนานประมาณ 10-15 นาที ถ้าทำสำหรับผู้ใหญ่สามารถปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่างๆ ได้
    เช่น พริกไทยและเกลือ แต่ถ้าจะทำให้เด็กเล็กควรงดเครื่องปรุงเหล่านี้ 
5. ใส่มักกะโรนีหรือเส้นพาสต้าลงไป คนให้เข้ากัน และตั้งไว้บนไฟต่อไปอีกประมาณ 10 นาที
6. นำลงจากเตา เติมผงสาหร่ายเกลียวทองลงไปในซุปผักและคนให้ส่วนผสมเข้ากัน ตักใส่ถ้วย
    นำเสิร์ฟได้เลย (และถ้าจะเสิร์ฟให้เด็กๆ ต้องรอให้ซุปผักมีอุณหภูมิอุ่นพอดีสำหรับเด็กๆ) 

ซุปสำหรับเด็ก
Tips
  • ถ้าอยากใส่เนื้อสัตว์ก็ได้เช่นกัน โดยฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ หรือจะสับละเอียดก็ได้ ในกรณีที่ผู้ใหญ่กินด้วย หลังจากตักใส่ถ้วยแยกแล้วจะเติมพริกแดงบด เกลือ พริกไทยเพื่อเพิ่มรสชาติก็ได้
  • ถ้ากังวลว่าเด็ก ๆ จะไม่ชอบกลิ่นฉุนของหัวหอมและกระเทียม สามารถใช้เป็นชนิดผงทดแทนกันได้
  • สามารถใช้ผักที่ชอบได้ หรือจะใช้ผักชนิดเดียวก็ได้ โดยเฉพาะสำหรับหนูน้อยที่เพิ่งทดลองกินซุปผักเป็นครั้งแรก
  • ควรงดเครื่องปรุงที่มีส่วนผสมของเกลือ ถ้าเป็นซุปผักสำหรับเด็ก ๆ
  • สามารถเก็บซุปผักในภาชนะที่มิดชิดไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 5 วัน
  • ในการอุ่นซุปผักครั้งต่อไป ให้เติมน้ำหรือน้ำซุปตามต้องการ เพราะเส้นมักกะโรนีหรือพาสต้าจะดูดซับน้ำจากซุปผัก

โภชนาการและแคลอรี่ที่ได้รับจากซุปผัก Minestrone Baby Soup ต่อ 1 หน่วยบริโภค หรือประมาณ 100-120 กรัม

ซุปผักสำหรับเด็ก
  • พลังงานทั้งหมด 63 กิโลแคลอรี่
  • โปรตีน 2.4 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต 11.9 กรัม
  • ไขมัน 0.4 กรัม
  • โพสแทสเซียม 659 มิลลิกรัม
  • ใยอาหาร 4 กรัม
  • วิตามินเอ 16%
  • แคลเซียม 3%
  • เหล็ก 5%

เติมคุณค่าทางอาหารด้วย ‘ผงสาหร่ายเกลียวทอง’ ในซุปผัก Minestrone Baby Soup

           สาหร่ายเกลียวทอง หรือ สาหร่ายสไปรูลิน่า นั้น อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารครบถ้วนตามโภชนาการ 5 หมู่ และยังมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นและสำคัญต่อร่างกายมากมายหลายชนิด ซึ่งเมื่อเติมลงไปในเมนูอาหารจานโปรดจานอร่อยแล้ว นอกจากจะเพิ่มสีสันให้เมนูน่ารับประทานยิ่งขึ้น ยังเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้แก่ร่างกายอีกด้วย นั่นเพราะ …

  • ในสาหร่ายเกลียวทองมีโปรตีนเข้มข้นถึง 70% ซึ่งมีมากกว่าแหล่งโปรตีนชนิดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์, เนื้อปลา, นม, ไข่ และพืชต่างๆ และยังเป็นโปรตีนที่ปราศจากคอเรสเตอรอล ย่อยง่าย ดูดซึมง่าย โดยมีอัตราการย่อยสูงถึง 95% ซึ่งสูงกว่าโปรตีนจากเนื้อสัตว์ถึง 2 เท่า และมีโปรวิตามินที่เปลี่ยนเป็นวิตามิน A ได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติเพียงหนึ่งเดียวของส่าหร่ายเกลียวทอง
  • ในสาหร่ายเกลียวทองมี กรดอะมิโน ที่เรียงตัวกันอย่างสมดุลและได้สัดส่วนมากถึง 18 ชนิด จึงช่วยให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ช่วยรักษาสมดุลในร่างกาย และช่วยควบคุมน้ำหนัก และมี กรดไขมันแกรมมาไลโนเลนิก (GLA) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายที่ปราศจากคอเรสเตอรอล จึงช่วยลดคอเรสเตอรอลและตรีกลีเซอไรด์ในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยช่วยลดคอลเลสเตอรอลได้ถึง 170 เท่าของกรดไขมันที่มีในน้ำมันพืช จึงช่วยให้ระบบดูดซึมอาหารทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ช่วยลดโรคท้องผูกเรื้อรังได้ดีขึ้น และช่วยควบคุมระดับกลูโคสในเลือดให้ลดลงได้
  • ในสาหร่ายเกลียวทองมีปริมาณน้ำตาลน้อยมาก (ราว 10%) และส่วนใหญ่อยู่ในรูปของน้ำตาล แรมโนส จึงไม่รบกวนอินซูลินในการย่อย และน้ำตาลเชิงซ้อนที่อยู่ในสาหร่ายเกลียวทองจะช่วยกระตุ้นเม็ดเลือดขาวขนาดใหญ่ และสร้างสารเคมีที่ช่วยกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวทุกชนิดทำลายจุลินทรีย์และไวรัสได้ดีขึ้น และยังช่วยกระตุ้นเซลล์ตั้งต้นของกระดูกไขสันหลังให้ผลิตเม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดแดงได้มากขึ้นด้วย
  • ในสาหร่ายเกลียวทองมีสารอาหารที่ดี วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น ‘เบต้าแคโรทีน’ ที่มีสูงถึง 20-25 เท่าที่มีในแครอท, วิตามินเอ, วิตามินบี1, วิตามินบี2, วิตามินบี3, วิตามินบี5, วิตามินบี6, วิตามินบี12, วิตามินซี, วิตามินอี, วิตามินเอช, คลอไรด์, อินโนซิทอล, โครเมียม, แมงกานีส, โปตัสเซียม, สังกะสี, โฟลิกแอซิด, นิโคตินิคแอซิด, คลอโรฟิลล์ และโปรวิตามินเอ ซึ่งโครเมียมนั้นจะช่วยให้อินซูลินทำหน้าที่ย่อยน้ำตาลกลูโคส จึงช่วยให้น้ำตาลในเลือดลดลง และช่วยให้ผิวพรรณเสื่อมสภาพได้้ช้าลง และช่วยให้ร่างกายผลิตอินซูลินที่ช่วยในการเผาผลาญน้ำตาลให้กลายเป็นพลังงานได้อย่างปกติและมีประสิทธิภาพ และยังช่วยลดกรดแซน์โทโรนิคที่เป็นตัวทำลายตับอ่อนได้
  • ในสาหร่ายเกลียวทองมีเอนไซม์มากกว่า 2,000 ชนิด ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญที่จะเข้าไปตัดวงจรการเกิดโรค และเอนไซม์บางชนิดยังทำหน้าที่ซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกทำลายได้ด้วย และยังมีเอ็มไซม์ที่ช่วยย่อยอาหาร 3 ชนิด คือเอ็มไซม์ย่อยแป้ง (Amylase) เอ็มไซม์ย่อยไขมัน (Lipase) และเอ็มไซม์ย่อยโปรตีน (Protease) ตัวช่วยสำคัญที่ไม่ให้ตับอ่อนต้องทำงานหนักเกินไป จึงมีคุณสมบัติสร้างภูมิต้านทานและหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค
  • ในสาหร่ายเกลียวทองมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายครบ 5 หมู่ และมีในสัดส่วนที่พอเหมาะ เมื่อรับประทานเป็นประจำจะช่วยให้ระบบการดูดซึมอาหารทำงานได้ดีขึ้น ขับถ่ายง่ายขึ้นและเป็นเวลาขึ้น
  • ในสาหร่ายเกลียวทองมี กลูตาไธโอน ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์และ DNA ที่สึกหรอให้แข็งแรงยิ่งขึ้น และมีเบต้าแคโรทีนและสารต้านอนุมูลอิสระระดับสูงที่ช่วยระบบต่างๆ ในร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้ร่างกายเสื่อมสภาพช้าลง ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงขึ้นและทำงานได้ดีขึ้น
  • ในสาหร่ายเกลียวทองมีสารอาหารที่เป็นตัวช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมน เมลาโทนิน หรือ สารแห่งความสุข ซึ่งช่วยให้การนอนหลับได้ดีขึ้น มีคุณภาพขึ้น หลับสนิทได้อย่างมีความสุข
  • ในสาหร่ายเกลียวทองมีกรดอะมิโนที่สำคัญและจำเป็นต่อร่างกายมากถึง 18 ชนิด เช่น กลูตามิก (Glutamic acid) ที่สำคัญต่อกระบวนการเผาผลาญอาหารให้สมอง ช่วยให้ระบบประสาทและร่างกายเกิดความสมดุล สุขภาพสมองดีขึ้น รู้สึกผ่อนคลาย, ไอโซลิวซีน (Isoleucine) ช่วยป้องกันความเสื่อมของระบบประสาทและเซลล์สมอง ช่วยให้สมองและร่างกายแข็งแรงขึ้น, ลิวซีน (Leucine) ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนบน ช่วยทำให้ร่างกายตื่นตัวและกระฉับกระเฉงมากขึ้น สดชื่นขึ้น ช่วยเพิ่มพลังงานให้กล้ามเนื้อ และช่วยให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น, กลูตาเมต (Glutamate) ช่วยให้มีสมาธิ ช่วยเรื่องระบบการเรียนรู้และจดจำสิ่งต่าง ๆ ให้ทำงานได้ดีขึ้น, ฟีนิลอะลานีน (Phenylalanine) ช่วยในการส่งผ่านความรู้สึกและช่วยรักษาความสมดุลของระบบประสาท ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานของสมอง ทำให้สมองเกิดการตื่นตัวตลอดเวลา รู้สึกอารมณ์ดี กระปรี้กระเปร่า เกิดความสมดุล และใจเย็นมากขึ้น และ ทริปโตเฟน (Tryptophan) ที่ช่วยกระตุ้นให้สมองหลั่งสาร ซีโรโทนิน (serotonin) ออกมา ซึ่งเป็นสารที่ส่งสัญญาณประสาทที่มีคุณสมบัติทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น และช่วยให้การนอนหลับได้มีคุณภาพมากขึ้น
  • ในสาหร่ายเกลียวทองมี เอนไซม์ซุปเปอร์ออกไซค์ดิสมิวเทส ที่เป็นตัวช่วยในการต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง จึงทดแทนเอนไซม์จากเนื้อสัตว์ได้ดี และมีคุณสมบัติสร้างภูมิต้านทานและหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค และเอนไซม์บางชนิดที่มีในสาหร่ายเกลียวทอง ยังช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกทำลายได้ และยังทำหน้าที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกทำลายให้กลับมาทำงานได้ดีขึ้น

Highlights

เพิ่มประโยชน์ให้ ซุปผัก Minestrone Baby Soup ด้วยผักหลากสีดีต่อสุขภาพ

ผักหลากสีมีคุณค่าทางอาหารที่แตกต่างกัน ถ้าซุปผักเลือกใช้ผักได้หลากหลายสีก็จะช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารได้อย่างครบถ้วน โดย ‘ผักสีเขียวมีสารคลอโรฟิลล์’ (Cholorphyll) ที่มีส่วนช่วยขจัดสารพิษ ลดน้ำตาลในเลือดได้ ผักสีเหลืองและผักสีส้มมีสารลูทีน (Lutein) และมีเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยบำรุงสายตา บำรุงเลือด ปกป้องเยื่อหุ้มเซลล์ และมีวิตามินเอสูง จึงช่วยชะลอวัยได้ด้วย และ ผักสีแดงมีสารไลโคปีน (Lycopene) ที่ช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก สร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยบำรุงผิว และงานวิจัยยังบอกอีกว่า เอ็นไซม์ในพริก จะทำให้ฮอร์โมนแห่งความสุขหลั่งออกมา เวลาได้กินเผ็ดจากพริกแล้วจะรู้สึกใจสบาย นอกจากนั้นช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญ ดีต่อระบบทางเดินหายใจ ช่วยให้หายใจโล่งขึ้นอีกด้วย