คุณค่าที่ได้รับจาก ‘Green Smoothie’ แก้วโต
           ผักและผลไม้สีเขียวนั้นดีต่อสุขภาพมาก เพราะมีทั้งคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll), ลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) ฯลฯ และยังมีไฟเบอร์สูง จึงช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย ลดอาการท้องผูก นอกจากนั้นก็ยังมีสารอาหารอื่น ๆ ที่ช่วยบำรุงสุขภาพขั้นเทพ เช่น สารช่วยต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเกิดริ้วรอย ช่วยลดความเสื่อมของจอประสาทตา ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง บำรุงหัวใจและป้องกันการเกิดโรคหัวใจ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย เป็นต้น ซึ่งการนำผักสีเขียวอย่างคะน้า ผลไม้สีเขียวอย่างอะโวคาโด และพืชสีเขียวอย่างสาหร่ายเกลียวทองมาเป็นส่วนผสมในสมูทตี้นี้ เรียกว่าดับเบิ้ลเมนูสีเขียว ๆ เพื่อสุขภาพเป็นพิเศษ แล้วยิ่งเติมเมล็ดเจียเข้าไปเป็นส่วนประกอบของเมนูสมูทตี้สีเขียว ๆ นี้ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ได้ทั้ง “เส้นใยอาหาร” และ “กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ดีต่อสุขภาพหัวใจมากยิ่งขึ้น” ทีนี้เรามาดูกันว่า คุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพอื่น ๆ ของแต่ละส่วนผสมในสมูทตี้แก้วนี้จะมีอะไรบ้าง

1. คะน้า มีวิตามินเอ วิตามินซี เบต้าแคโรทีน แคลเซียม โฟเลต ธาตุเหล็ก กากใยสูง จึงช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย บำรุงสายตา บำรุงเลือด เพิ่มคอลลาเจนให้ผิว กระตุ้นระบบขับถ่าย ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก ลดโอกาสการอักเสบของเนื้อเยื่อและเซลล์ต่าง ๆ ได้ดี

2. กล้วยสุก  มีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามินและเกลือแร่ เช่น วิตามินเอ กลุ่มวิตามินบี วิตามินซี โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม ธาตุเหล็ก ทริปโตเฟน จึงช่วยเพิ่มกากใยให้กับลำไส้ ลดอาการท้องผูก และมีสาร ‘แทนนิน’ ที่มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และสาร ‘เซโรโทนิน’ ที่ช่วยกระตุ้นให้กระเพาะอาหารผลิตเยื่อเมือกมากขึ้น จึงช่วยเคลือบแผลที่กระเพาะอาหาร ลดการระคายเคือง และลดการแสบร้อน

3. นมอัลมอนด์  มีวิตามินดี วิตามินอี และแคลเซียมสูง แต่มีแคลอรีต่ำ ฟอสฟอรัสต่ำ น้ำตาลต่ำ จึงไม่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด โดยวิตามินดีที่มีในนมอัลมอนด์นั้น ยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง โรคกระดูกพรุน โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ปัญหาภาวะเจริญพันธุ์ โรคภูมิต้านตนเอง และโรคติดเชื้อ รวมถึงไม่มีแลคโตสธรรมชาติ ผู้ที่แพ้แลคโตสจึงสามารถดื่มนมอัลมอนด์ได้

4. อะโวคาโด  จัดเป็น Superfood เพราะเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก คือมีไขมันดีในปริมาณสูง ซึ่งก็คือ กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว Monounsaturated Fat (MUFA) ที่ไปช่วยลดไขมันเลว (LDL-C) ในเลือดได้ จึงลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ นอกจากนั้น ยังมีสารอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์อีกมาก เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามินและแร่ธาตุสูง เช่น วิตามินบี วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค โฟเลต โพแทสเซียม จึงช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ช่วยป้องกันการแข็งตัวของเลือด ลดการอักเสบในร่างกาย ป้องกันภาวะซีดของโรคโลหิตจาง ช่วยควบคุมความดันโลหิต และต้านอนุมูลอิสระ    

5. เมล็ดเจีย  อุดมด้วยสารอาหารสำคัญที่ดีต่อร่างกายและหัวใจอย่าง “กรดไขมันโอเมก้า 3” และ “กรดอัลฟาลิโนเลอิก” คาร์โบไฮเดรต โปรตีน แคลเซียม กากใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งวิตามินและแร่ธาตุอีกมากมาย ช่วยลดระดับความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัว หรือความดันโลหิตตัวบน ลดระดับโปรตีนที่ตอบสนองต่อการอักเสบภายในร่างกายที่อาจจะส่งผลต่อโรคหัวใจบางชนิด ลดปัจจัยเกิดความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด และภาวะที่สามารถทำให้เกิดลิ่มเลือดซึ่งเป็นสาเหตุของกล้ามเนื้อหัวใจตายหรือโรคหลอดเลือดสมอง ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ

6. น้ำผึ้ง  ในน้ำผึ้งมีแบคทีเรียชนิดดีคือ “โพรไบโอติกส์” และ “แลคโตบาซิลัส” จึงช่วยให้ลำไส้แข็งแรง ช่วยดีท็อกซ์ลำไส้และระบบขับถ่าย ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ และโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดต่าง ๆ ช่วยลดความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือด และน้ำตาลที่พบในน้ำผึ้งเป็นน้ำตาลฟรุกโตสที่มีแคลอรีน้อย แต่ให้ความหวานเท่าน้ำตาลทั่วไป จึงเป็นความหวานที่ดีต่อสุขภาพนั่นเอง

7. สาหร่ายเกลียวทอง  เป็นพืชจากธรรมชาติเพียง 1 เดียวที่มีสารอาหารคุณภาพสูงและมีประโยชน์ต่อร่างกายครบทั้ง 5 หมู่ โดยมีโปรตีนเข้มข้นถึง 70 เปอร์เซนต์ มีกลุ่มวิตามินต่าง ๆ มากมาย เช่น วิตามินเอ โปรวิตามินเอ กลุ่มวิตามินบี ไม่ว่าจะเป็น บี1 บี2 บี3 บี5 บี6 บี12 วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเอช คลอไรด์ อินโนซิทอล โครเมี่ยม แมงกานีส โปตัสเซียม สังกะสี โฟลิกแอซิดและนิโคตินิคแอซิด มีเกลือแร่ที่ร่างกายต้องการ เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียม มีกรดอะมิโนที่เรียงตัวอย่างสมดุลและได้สัดส่วนถึง 18 ชนิด มีเอนไซม์มากกว่า 2,000 ชนิด ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญในการตัดวงจรของการเกิดโรคต่าง ๆ โดยเอนไซม์บางชนิดยังช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกทำลายได้อีกด้วย และมีกรดไขมันจำเป็นต่อร่างกายอย่าง “แกรมมาไลโนเลนิก” (GLA) จึงช่วยลดคอเรสเตอรอลและตรีกลีเซอไรด์ในเลือดได้ดี ช่วยควบคุมระดับกลูโคสในเลือดให้ลดลง มีคลอโรฟิลล์ที่ดีต่อร่างกาย มีเบต้าแคโรทีนถึง 20-25 เท่าที่มีในแครอท การรับประทานสาหร่ายเกลียวทองเป็นประจำ จึงช่วยให้ระบบการดูดซึมอาหารทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงขึ้น ช่วยรักษาสมดุลในร่างกาย ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค และมีคุณสมบัติอื่น ๆ ที่ดีต่อสุขภาพอีกมาก